Logo-CPF-small-65png

โรงเรือนอีแวป ระบบอินเวอร์เตอร์ มีแล้วใช้ประโยชน์ให้เต็มประสิทธิภาพ ตอนที่ 6

โรงเรือนอีแวป ระบบอินเวอร์เตอร์

ตอนนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับเรื่องการรับและการสูญเสียความร้อนในตัวสุกร หรืออีกนัยหนึ่งคือการถ่ายเทความร้อนในโรงเรือนปิด ต้องเข้าใจพื้นฐานก่อนนะครับว่าสุกรไม่มีต่อมเหงื่อดังนั้นจะใช้ความรู้สึกของผู้เลี้ยง (คน-มนุษย์ซึ่งมีต่อมเหงื่อ) เป็นตัวตัดสินว่าสภาพแวดล้อมเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมมิได้

ความร้อนสามารถถ่ายเทได้ด้วย 4 ปัจจัยคือ

  1. การนำความร้อน (Conduction)
  2. การระเหย (Evaporation)
  3. การแผ่รังสี (Radiation)
  4. การพาความร้อน (Convection)

การนำความร้อน (มีผลต่อร่างกายสุกร 13%)

การที่ร่างกายไปสัมผัสกับพื้นหรือผนังคอกที่ร้อนกว่า ทำให้ความร้อนจากพื้นคอกถ่ายเทไปยังผิวหนังจึงทำให้รู้สึกร้อน  การที่ร่างกายไปสัมผัสกับพื้นหรือผนังคอกที่เย็นกว่า ทำให้ความร้อนจากผิวหนังถ่ายเทไปยังพื้นคอกจึงทำให้รู้สึกเย็น  ปัจจัยที่ทำให้การนำความร้อนเกิดขึ้นได้สูง/ต่ำคือ ระดับอุณหภูมิของพื้นผิว

การระเหย (มีผลต่อร่างกายสุกร 17%)

การระเหยของน้ำที่อยู่บริเวณผิวหนัง เมื่อน้ำระเหยก็จะดึงดูดเอาความร้อนบริเวณผิวหนังออกไปด้วย จึงทำให้รู้สึกเย็น การระเหยจะเกิดขึ้นสูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับความเร็วของกระแสลมและความชื้นในบรรยากาศ

การแผ่รังสี (มีผลต่อร่างกายสุกร 30%)

ถ้าภายนอกโรงเรือนอากาศร้อน/หนาวมาก สุกรจะได้รับผลกระทบจากอากาศร้อน/หนาวโดยที่สุกรไม่ได้สัมผัสกับอากาศโดยตรง การรับ/สูญเสียความร้อนจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวัสดุที่ผนังคอก

การพาความร้อน (มีผลต่อร่างกายสุกร 40%)

   การเคลื่อนของกระแสลมที่พัดมากระทบกับผิวหนัง และดึงดูดความร้อนบริเวณผิวหนังออกไป ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเย็นคือ อุณหภูมิของอากาศและความเร็วของกระแสลม

โรงเรือนสุกรรูปแบบปิดที่มีการระบายอากาศแบบอุโมงค์ลม (Tunnel Ventilation) โดยนำหลักการระเหยของน้ำ (Evaporation) มาใช้ในการลดอุณหภูมิของอากาศก่อนเข้าโรงเรือน เพื่อให้เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงสัตว์ โดยวัตถุประสงค์ที่ใช้ระบบนี้เพื่อให้สุกรอยู่สบาย (Pig Comfort)  ลดความเครียดให้น้อยที่สุด

ผู้ใช้โรงเรือนต้องเข้าใจว่าปัจจัยที่มีผลการแลกเปลี่ยนความร้อนในตัวสุกรสูงสุดคือการพาความร้อน (40%) แต่การพาความร้อนจะให้ผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อมีการระเหยน้ำ (17%) เข้ามาช่วยเพราะสุกรไม่มีต่อมเหงื่อ การบริหารโรงเรือนอีแวปจึงต้องพิจารณาถึง ความชื้นและความเร็วลมเพื่อให้สามารถทำให้อุณภูมิที่สุกรรู้สึกเป็นไปตามที่สุกรต้องการและต้องไม่ลืมเรื่องค่าความสบายของสุกร (Optimal Humidity – ดูเพิ่มเติมในบทที่ 4)

การแผ่รังสี (30%)   ต้องพิจารณาเป็นพิเศษในขั้นตอนการสร้างโรงเรือนหรือการดัดแปลงโรงเรือนให้สุกรสามารถให้ผลผลิตสูงสุด โดยการคัดเลือกอุปกรณ์ในการก่อสร้างที่เหมาะสมเช่น ผนัง วัศดุมุงหลังคา ฝ้าเพดาน หน้าต่างและทิศทางโรงเรือนฯลฯ                    ให้มีผลต่อการแผ่รังสีความร้อนให้น้อยที่สุดเช่น แผ่นฉนวนไอโซวอลล์ (ISO-Wall Sandwich panel), Metal sheet          การลดการแผ่รังสีอีกทางหนึ่งก็คือทำอย่างไรให้พื้นที่ทุกส่วนของโรงเรือนโดนแดดให้น้อยที่สุดหรือไม่โดนเลยยิ่งดี

การนำความร้อน (13%) พิจารณาในแง่หาพื้นรองนอนเพื่อความอบอุ่นสำหรับสุกรที่อายุน้อยซึ่งต้องการอุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิห้อง (>32 องศาเซลซัยส)

บทต่อไปเราจะมาทำความเข้าใจกับการใช้ปัจจัยทั้ง 4 ตัวในการทำให้เกิด Pig Comfort ในโรงเรือน     การคำนวนหาค่า % Wind Speed และการเฝ้าระวังเพื่อให้เกิด Pig Comfort ในโรงเรือน วันละ 24 ชั่วโมง ปีละ 365 วัน

CR:  โค้ชวิทธ์

แชร์

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การเก็บและใช้งานคุกกี้สามารถศึกษาได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้บริษัทฯ จัดเก็บ. (เรียนรู้เพิ่มเติม)